วันศุกร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2552

Harry Potter 1 Harry Potter กับศิลาอาถรรพณ์





Harry potter มีพ่อชื่อ เจมส์ พอตเตอร์ แม่ชื่อ ลิลี่ พอตเตอร์ ในขณะที่แฮร์รี่เกิดมาได้ไม่นานก็มีจอมมารชื่อ ลอร์ดโวลเดอร์มอร์ ซึ่งเป็นพ่อมดฝ่ายมืดที่ชั่วร้ายมากถ้าหากผู้ไดเป็นปรปักษ์จะต้องตาย และพ่อแม่ของแฮร์รี่ก็เป็น 1 ในพ่อมดฝ่ายธรรมมะ แต่พลาดพลั้งโดนจอมมารฆ่าตายและจอมมารก็จะฆ่าแฮร์รี่ด้วยแต่ด้วยพลังของความรักของแม่สามารถปกป้องแฮร์รี่และสามารถสะกดพลังของจอมมารได้และแฮร์รี่ก็ได้แผลเป็นรูปสายฟ้ามาที่หน้าผากและพลังของจอมมารก็สลายไปจนมีผู้หนึ่งได้เก็บแฮร์รี่ไปชื่อว่า แฮเกร็ด และเขาได้นำไปให้ญาติของแฮร์รี่เลี้ยงซึ่งเป็นญาติเพียงผู้เดียวที่เขารู้จักและเมื่อเขานำแฮร์รี่ไปวางไว้หน้าบ้านครอบครัวเดอร์ลีย์ก็ได้รับเลี้ยงไว้แต่เขาปกปิดฐานะของแฮร์รี่ทุกประการว่าพ่อแม่เขาเป็นพ่อมดตายเพราะอะไรทำไมเขาถึงมีรอยแผลเป็นที่หน้าผากซึ่งเขาได้ปกปิดว่าพ่อแม่ของแฮร์รี่ตายเพราะอุบัติเหตุรถชนรอยแผลเป็นมาจากอุบัติเหตุรถชนด้วยเช่นกัน และครอบครัวนี้มีลูกชายอยู่แล้ว 1 คนชื่อดัดลีย์มีความเป็นอยู่ต่างจากแฮร์รี่โดยสิ้นเชิงเช่น ดัดลีย์มีอาหารกินดีอุดมสมบูรณ์แต่แฮร์รี่อดอยากรูปร่างจึงต่างกันอย่างเห็นได้ชัดดัดลีย์มีรูบร่างอ้วนกลมเหมือนหมู แฮร์รี่นั้นผอมบางสวมแว่นแตกๆหักๆ ชุดนักเรียนทุกชุดล้วนเป็นชุดที่ดัดลีย์สวมใสทั้งสิ้นซึ่งป้าเพ็ตทูเนียได้นำชุดเก่าๆมาย่อมและให้แฮร์รี่สวมใส่ไปเรียน วันเกิดของดัดลีย์เขาก็ได้รับของขวัญมากมายส่วนแฮร์รี่ไม่ได้เลยซักชิ้นเดียว ห้องนอนของแฮร์รี่ก็ยังอยู่ใต้บันไดโดยมีเพื่อนๆเป็นหนูที่แสนน่ารักส่วนดัดลีย์อยู่ห้องนอนใหญ่โต แต่แฮร์รี่ก็สามารถทนอยู่ได้ด้วยกำลังใจเพียงน้อยนิดเพื่อที่เขาได้ไปโรงเรียนโดยเขาไม่ขัดใจลุงเวอร์นอน ป้าเพ็ตทูเนียเพราะมิฉะนั้นเขาจะถูกขังไม่ให้ออกมาจากห้องใต้บันไดจนในที่สุดเขาก็ได้รับจดหมายจ่าหน้าซองไว้อย่างชัดเจนว่า ถึงคุณ ฮ.พ็อตเตอร์ บ้านเลขที่ 4 ซอย พรีเว็ต ห้องใต้บันไดแต่ลุงเวอร์นอนเอาไปอ่านก่อนแล้วไม่บอกเนื้อเรื่องจนเขาต้องย้ายแฮร์รี่ไปอยู่ในห้องเก็บของที่จัดไวเรียบร้อยแล้วแต่จดหมายก็ยังถูกส่งมาแล้วก็จ่าหน้าซองว่า ถึงคุณ ฮ.พ็อตเตอร์ บ้านเลขที่ 4 ซอยพรีเว็ต ห้องเก็บของที่เล็กที่สุดแต่ลุงก็ยังยึดจดหมายไปโดยที่แฮร์รี่ยังไม่ได้อ่านเลยจนมีอยู่วันหนึ่งแฮเกร็ดก็มาหาและพบแฮร์รี่อยู่ในสภาพที่แย่และที่ร้ายที่สุดก็คือแฮร์รี่ยังไม่ได้รับจดหมายของเขาเลยเขาจึงได้อาละวาดจนครอบครัวนี้หวาดกลัวและเขาก็ได้ยื่นจดหมายให้เขาอ่านซึ่งเป็นจดหมายเชิญให้ไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนฮอกวอตส์ เป็นโรงเรียนสอนพ่อมดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดซึ่งพ่อแม่เขาได้ฝากอาจารย์ใหญ่ชื่อว่าดับเบิ้ลดอร์ไว้และชีวิตของเขาได้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงเขาได้มีเพื่อนใหม่ๆและเขายังเป็นที่รู้จักกันไปทั่วเพราะเขาสามารถกำจัดจอมมารได้แต่เขาก็ไม่ได้ทนงตนหรือเหลิงว่าตนเองยิ่งใหญ่แม้แต่น้อยแต่เขาเป็นคนที่จิตใจดีงาม รักเพื่อน กล้าหาญซึ่งที่ผ่านๆมาเขาได้รับแต่ความโหดร้ายจากครอบครัวนี้แต่เขากลับเป็นคนดีและเจายังได้อยู่ที่ห้องเรียนกริฟฟินดอร์(เป็นห้องที่มีแต่ผู้กล้าและจิตใจดีเท่านั้นที่ได้รับการคัดสรรพ์มาจากหมวกคัดสรรพ์)เขาจึงมีแต่เพื่อนที่ดีมีทั้งเรียนเก่งเช่นเฮอร์ไมนี่ และเพื่อนที่ดีเช่น รอน แต่เขาก็ยังมีคนที่เขาไม่ชอบหน้าชื่อว่า มัลฟอย (อยู่ห้องสไลธีริน เป็นห้องที่มีแต่ผู้ที่มีจิตใจชั่วร้าย )ที่ไม่ใช่เพราะว่าเขาเกลียดหรือโดนทำร้าย แต่เขาไม่ขอบเพราะเพื่อนของเขาโดนแกล้งเขาก็ได้ไปช่วยและเขาจึงไม่ค่อยชอบมัลฟอยแต่เขาก็ไม่เคยชวนไปหาเรื่องเลย และยังมีอาจาร์ยอีกคนที่ไม่ชอบแฮร์รี่เท่าไรชองหาเรื่องหักคะแนนเขาอยู่เรื่อยชื่อ สเนป
เป็นอาจารย์ประจำบ้านสไลธีริน ที่เขาไม่ขอบแฮร์รี่เพราะพ่อเขาเคยช่วยสเนปไว้และเขาไม่ชอบพ่อแฮร์รี่อยู่แล้วยังมาถูกช่วยอีกเขาจึงรู้สึกเป็นหนี้แฮร์รี่จึงไม่ชอบแสดงตัวว่าเขาช่วยเหลืออยู่แต่ในความจริงแล้วเขาคอยช่วยเหลือไม่ให้ใครมาทำร้ายแฮร์รี่จนในที่สุดแฮร์รี่ก็เรียนจบปี 1 โดยผ่านเหตุการณ์ต่างๆมากมายแต่เขาก็สามารถผ่านมาได้เพราะความกล้าหาญสามัคคีและเมื่อเขากลับมาครอบครัวเดอร์สลีย์ก็มารับแต่ชีวิตความเป็นอยู่ของเขาเปลี่ยนไปเพราะครอบครัวนี้กลัวแฮร์รี่เสกให้เป็น...แต่เขาก็ไม่ได้ทำแต่เขาป้องกันตนเองโดยเขาบ่นพึมพำเพื่อให้เขาปลอดภัย แต่เขาก็ยังถูกกดขี่อยู่เช่นเดิมเช่น ตำราเรียน ไม้กวาด โดนเก็บไปหมดเลยและยังห้ามไม่ไห้เขาติดต่อกับเพื่อนๆโดยใช้นกฮูกอีกเพราะถ้าเขากล้าขัดขืนเขาจะไม่มีที่พักพิงแม้ว่าพ่อแม่เขาทิ้งสมบัติกองโตไวที่ธนาคารพ่อมดและครอบครัวนี้ยังไม่รู่ว่าเขามีสมบัติมากและเมื่อเขาจบปี2 ก็มีเหตุการณ์ที่ป้ามารจ์มาและแฮร์รี่สุดจะทนได้แล้วที่เขาโดนว่าและกล่าวหาว่าเป็นเด็กที่ประพฤติตัวไม่ดีจนต้องไปอยู่สถานอบรมเด็กและไม่ได้สั่งสอนจนเขาระเบิดความโกรธโดยร่ายเวทย์มนต์ทำให้ป้ามาร์จพองตัวและลอยขึ้นไปจนเขาต้องหนีออกจากบ้านจนเขาได้พบกับอาจารย์แต่อาจารย์ไม่ได้ลงโทษและเขายังใช้เวทย์มนต์แก้และทำให้ครอบครัวนี้ลืมเหตุการณ์ที่แฮร์รี่ทำลงไปเพราะได้มีนักโทษร้ายกาจหลุดออกมาแต่สุดท้ายความจริงก็ปรากฏว่านักโทษคนนี้เป็นเพื่อนสนิทของพ่อแม่แฮร์รี่และเขาถูกใส่ความว่าเขาฆ่าคนตายโดยมีเพียงแฮร์รี่และเพื่อนๆกับดับเบิ้ลดÍร์เท่านั้นที่รู้ความจริงส่วนนักโทษคนนั้นที่ชื่อ ซิริอัส แบล็กก็ได้ถูกแฮร์รี่ช่วยให้เขาหลุดพ้นจากการจับกุมไปได้และสุดท้ายเขาได้ส่งจดหมายมาหาแฮร์รี่ทันทีที่เขาได้อ่านเขาก็ดีใจมากเพราะคนที่ส่งไม้กวาดที่ดีที่สุดคือซิริอัสแบล็กนั่นเองและเขายอมรับว่าเขาเป็นพ่อบุญธรรมแทนเจมส์ที่ตายไปเมื่อแฮร์รี่กลับถึงสถานีรถไฟครอบครัวเดอร์สลีย์ก็มารับและยังมีปฏิกิริยาเหมือนเดิม

Harry Potter 2 Harry Potter กับห้องแห่งความลับ





แฮร์รี่ พอตเตอร์ (แดเนียล แรดคลิฟฟ์) มีวันปิดภาคฤดูร้อนที่ไม่สนุกนัก เขาไม่เพียงแต่ต้องทนอยู่กับป้าเพ็ตทูเนียจอมเผด็จการ (ฟีโอน่า ชอว์) และ ลุงเวอร์นอน เดอร์สลีย์ (ริชาร์ด กริฟฟิธส์) ที่หวาดกลัวต่อเวทมนตร์วิเศษของเขา แต่ดูราวกับว่าเพื่อนสนิททั้งสอง รอน วีสลีย์ (รูเพิร์ต กรินท์) และเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ (เอ็มม่า ว็อตสัน) พากันลืมเขาเสียสนิทอีกทั้งยังไม่เคยตอบจดหมายเขาแม้แต่ฉบับเดียว และแล้วจู่ๆ ก็มีด๊อบบี้ เอลฟ์ประจำบ้านมาปรากฎกายอย่างลึกลับในห้องนอนของแฮร์รี่ เพื่อเตือนเขาถึงอันตรายครั้งใหญ่ที่จะเกิดขึ้น หากว่าแฮร์รี่จะพยายามกลับไปที่โรงเรียนพ่อมดแม่มดและเวทมนตร์ศาสตร์ฮอกวอตส์ด๊อบบี้เต็มใจอย่างยิ่งที่จะปกป้องมิให้หนุ่มน้อยกริฟฟินดอร์ได้กลับไปยังฮอกวอตส์ โดยเขาได้กักเก็บจดหมายทุกฉบับที่ทั้งรอนและเฮอร์ไมโอนี่ได้เขียนมาหาแฮร์รี่ แต่ตรงข้ามกับความพยายามอันแสนเจ้าเล่ห์ของเอลฟ์ แฮร์รี่ผู้มุ่งมั่นได้รับความช่วยเหลือให้พ้นจากวิกฤติการณ์อันหดหู่ของครอบครัวเดอร์สลีย์ จากฝีมือของรอนเละพี่ๆ ของเขาด้วยการใช้รถเหาะ!ทั้งหมดได้พาเขาไปพักพิงอยู่ในบ้านอันแสนอบอุ่นของครอบครัววีสลีย์เมื่อแฮร์รี่และรอนได้ถูกปิดกั้นอย่างน่าสงสัย มิให้เข้าไปในชานชลา 9 ? เพื่อขึ้นรถด่วนฮอกวอตส์กลับไปโรงเรียน ทั้งคู่จำต้องใช้มาตรการฉุกเฉินเพื่อมิให้พลาดการเข้าเรียนในปีการศึกษาใหม่ – แต่กลับต้องเผชิญกับความโกรธเกรี้ยวของศาสตราจารย์สเนป (อลัน ริคแมน) ผู้ขอให้ทั้งคู่ถูกไล่ออกหลังจากทำให้รถฟอร์ด แองเกลีย พุ่งเข้าชนต้นวิลโล่ว์จอมหวดอันมีค่าของฮอกวอตส์

Harry Potter 3 Harry Potter กับนักโทษแห่งอัซคาบัน











แฮร์รี่ กำลังมีความสุขที่ได้รับของขวัญวันเกิดปีที่สิบสามจากเพื่อน ๆ และแฮกริด แต่ไม่ทันไร ป้ามาร์จพี่สาวลุงเวอร์นอนก็มาเยี่ยมครอบครัวเดอร์สลีย์และทำให้แฮร์รี่ตบะแตก ปล่อยคาถาใส่เธอโดยไม่ตั้งใจ แฮร์รี่เลยต้องระเห็จออกจากบ้านไปกลางดึก


แฮร์รี่ ได้ข่าวว่าซิเรียส แบล็ก แหกคุกอัซคาบันออกมาเพื่อตามล่าเขา!แบล็กคือเพื่อนสนิทของเจมส์ พอตเตอร์แต่ใคร ๆ พูดกันว่าแบล็กกลับใจไปเป็นสมุนของโวลเดอมอร์และที่บอกที่ซ่อนของเจมส์กับลิลี่ให้โวลเดอมอร์รู้ ...ในเมื่อแบล็กกลับมา แฮร์รี่ก็จะไม่หนี เขาจะแก้แค้นแทนพ่อแม่เอง!


ไม่ใช่ แค่นักโทษแห่งอัซคาบันเท่านั้นที่ทำให้้ฮอกวอตส์ไม่น่าอยู่เหมือนเคย ผู้คุมวิญญาณที่น่าสะอิดสะเอียนก็เพ่นพ่าน หาตัวแบล็กอยู่ทั่วโรงเรียนคำทำนายของศาสตราจารย์ทรีลอว์นีย์เกี่ยวกับแฮร์รี่ก็ไม่เคยให้กำลังใจเลยสักนิด ยังดีที่ปีนี้ อาจารย์วิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดเป็นคนที่น่าศรัทธาอย่างลูปิน... แต่ก็นั่นแหละ ลูปินเองก็มีลับลมคมในอะไรบางอย่าง

Harry Potter 4 Harry Potter กับถ้วยอัคนี




แฮร์รี่ อายุสิบสี่ปี เป็นนักเรียนชั้นปีที่สี่ของโรงเรียนพ่อมดแม่มดและเวทมนตร์ศาสตร์ฮอกวอตส์ ก่อนเปิดเทอมเขาได้ไปดูการแข่งขันควิดดิชเวิลด์คัพกับครอบครัววีสลีย์ ทำให้มีโอกาสเห็นฝีมือของวิกเตอร์ ครัม ซีกเกอร์มือฉมังของทีมชาติบัลแกเรีย หลังจากนั้นเขาก็ได้พบครัมอีกครั้งเมื่อโรงเรียนเดิร์มสแตรงก์ที่ครัมเรียนอยู่และโรงเรียนโบซ์บาตงเดินทางมาประลองเวทไตรภาคีที่ฮอกวอตส์เป็นเจ้าภาพ


ทั้งสามโรงเรียนต้องส่งนักเรียนโรงเรียนละหนึ่งคนเป็นตัวแทน แต่เนื่องจากการแข่งขันนี้เสี่ยงอันตรายจึงไม่อนุญาตให้ผู้ที่มีอายุต่ำกว่าสิบเจ็ดปีเข้าร่วมโดยเด็ดขาด ผู้ที่อยากประลองจะต้องส่งชื่อของตนเองลงในถ้วยอัคนี และถ้วยจะคัดเลือกผู้ที่เหมาะสมเป็นตัวแทนโรงเรียน


ตัวแทนของเดิร์มสแตรงก์คือ วิกเตอร์ ครัม สำหรับโบซ์บาตง ถ้วยอัคนีเลือกเฟลอร์ เดอลากูร์ และฮอกวอตส์ได้เซดริก ดิกกอรี่แต่แฮร์รี่ พอตเตอร์ กลับถูกถ้วยอัคนีเลือกให้เป็นตัวแทนของฮอกวอตส์อีกคน ทั้ง ๆ ที่เขาอายุไม่ถึง สิบเจ็ดปี!?!? แฮร์รี่ยืนยันว่าเขาไม่ได้เสนอชื่อตัวเอง

Harry Potter 5 ภาคีนกฟินิกส์


ภาค 5ภาคีนกฟินิกส์
ปิดเทอมหน้าร้อนนี้ แฮร์รี่ กระวนกระวายใจอย่างมาก เพราะเขาเป็นกังวลเรื่อง โวลเดอมอร์ แต่ไม่ได้รับข่าวคราวจากโลกเวทย์มนต์เลย จดหมายที่ได้รับจากพ่อทูนหัว ซิเรียส และเพื่อนทั้งสองคือ รอน และ เฮอร์ไมโอนี มีเพียงข้อความสั้นๆ แค่ ?พบกันเร็วๆนี้? ในขณะเดียวกัน เขารู้สึกว่ามีใครบางคนที่มองไม่เห็นติดตามเขาอยู่ แฮร์รี่หงุดหงิดเสียจนต้องระบายด้วยการไปดักหาเรื่องกับดัดลีย์ขณะที่อีกฝ่ายเดินกลับบ้านในตอนเย็นวันหนึ่ง ระหว่างที่มีปากเสียงกัน ทันใดนั้นก็ถูกผู้คุมวิญญาณสองตนจู่โจม ดัดลีย์เกือบได้รับจุมพิตจากผู้คุมวิญญาณ ถ้าแฮร์รี่ไม่ใช้เวทย์มนต์ผู้พิทักษ์เข้าช่วย เหตุการณ์ทั้งหมดถูก มิสซิสฟิกก์ เพื่อนบ้านชราพบเห็น แฮร์รี่จึงได้รู้ว่า มิสซิสฟิกก์เป็น สควิป ได้รับมอบหมายจาก ดัมเบิลดอร์ให้คอยดูแลเขาอยู่ห่างๆ โดยไม่ให้รู้ความจริงก่อนเวลาอันควร อีกทั้งยังให้พ่อมดแม่มดกลุ่มหนึ่งคอยติดตามคุ้มครองแฮร์รี่อยู่เงียบๆ เพียงแต่ มันดังกัส เฟล็ชเชอร์ ที่เข้าเวรในขณะนั้น แอบไปทำธุระส่วนตัว มิสซิสฟิกก์โกรธจนบอกว่า จะต้องฟ้องดัมเบิลดอร์ แฮร์รี่พาดัดลีย์ซึ่งยังไม่ได้สติกลับบ้าน ลุงเวอร์นอนและป้าเพ็ตทูเนียตกใจมาเมื่อเห็นสภาพของลูกชาย ทันใดนั้นเขาก็ได้รับจดหมายสองฉบับ ฉบับหนึ่งจากกระทรวงเวทย์มนต์ แจ้งว่า เขาจะต้องถูกสอบสวนข้อหาใช้เวทย์มนต์โดยไม่ได้รับอนุญาต อาจถูกไล่ออกจากโรงเรียนและถูกหักไม้กายสิทธิ์ ในเวลาเดียวกันจดหมายจากดัมเบิลดอร์มีเพียงสั้นๆ ว่า ?ไม่ว่าอย่างไร ห้ามออกจากบ้านซอยพริเว็ต? เมื่อดัดลีย์ได้สติก็กล่าวหาว่า แฮร์รี่เป็นผู้กระทำ ลุงเวอร์นอนจึงได้โอกาสไล่ออกจากบ้าน ถ้าป้าเพ็ตทูเนียไม่ได้รับจดหมายกัมปนาทที่มีข้อความที่ป้ารู้เรื่องเพียงคนเดียว จึงยอมให้แฮร์รี่ยังอยู่ในบ้าน คืนหนึ่ง พวกเดอร์สลีย์ออกไปจากบ้านโดยทิ้งแฮร์รี่ไว้ตามลำพัง คืนนั้นเองที่เขาได้พบกับลูปิน มูดดี้ และพ่อมดแม่มดอีกจำนวนหนึ่ง ได้รับคำสั่งจากดัมเบิลดอร์ ให้มาคุ้มครองเขาออกจากบ้านซอยพริเว็ต ไปยังสำนักงานใหญ่ของ ?โองการแห่งนกฟินิกส์? ซึ่งเป็นกลุ่มที่ดัมเบิลดอร์จัดตั้งขึ้นเพื่อต่อต้านโวลเดอมอร์ ที่นั่น แฮร์รี่ได้พบกับ ซิเรียส พ่อทูนหัวของเขา รอน เฮอร์ไมโอนี่ และครอบครัววิสลี่ย์เกือบทุกคน ซึ่งบ้านที่ใช้เป็นที่ทำการใหญ่นั้น เป็นบ้านเดิมของซิเรียสนั่นเอง ท่ามกลางความโกรธเกรี้ยวท ี่รู้สึกว่าถูกตัดขาดและไม่ได้รับความไว้วางใจ แฮร์รี่ได้รับรู้เรื่องราวทั้งหมด กระทรวงเวทย์มนต์ปิดข่าวเรื่องการฟื้นคืนชีพของโวลเดอมอร์ คอนนีเลียส ฟัดจ์ รัฐมนตรี หวงตำแหน่งและระแวงว่า ดัมเบิลดอร์จะสร้างขุมกำลังขึ้นมาแข่ง จึงพยายามกีดกัน แฮร์รี่ถูกกล่าวหาว่า โกหกเรื่องโวลเดอมอร์ การที่มีการกล่าวโทษและสอบสวนก็เพื่อไม่ให้แฮร์รี่กลับไปที่ ฮอกวอร์ต เพอร์ซี่ ลูกชายคนที่สามของตะกูลวิสลีย์ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้ช่วยฟของรัฐมนตรี มีความทะเยอทะยานถึงขนาดทะเลาะกับพ่อของตนเองและออกจากบ้าน นอกจากนี้แฮร์รี่ยังได้รู้ความจริงที่ว่า ตระกูล แบล็ค ของซิเรียส ถือว่าเป็นตระกูลที่มีเลือดบริสุทธิ์และสูงส่ง รังเกียจพวกลูกครึ่งและ ?เลือดสีโคลน? จะแต่งงานกับพวกที่เป็น ?เลือดบริสุทธิ์? ด้วยกันเท่านั้น สายเลือดที่สืบต่อกันมาเกี่ยวดองกับตระกูลอื่นๆ รวมทั้งตระกูล มัลฟอย ตัวซิเรียสเองก่อนจะต้องคดี ก็ไม่ถูกกับแม่ซึ่งเป็นคนเจ้ายศเจ้าอย่าง จึงหนีออกจากบ้านเมื่ออายุได้ 17 ปี โดยไปอยู่ที่บ้านปู่ย่าของแฮร์รี่ จนมีบ้านของตนเอง ในภายหลัง น่าตกใจไปกว่านั้น น้องชายของซิเรียส เป็นผู้เสพความตาย แต่ถูกโวลเดอมอร์ฆ่าเมื่อพยายาม จะตีตัวออกห่าง ลูกพี่ลูกน้องคนหนึ่งชื่อ เบลลาทริกซ์ เป็นสมุนที่ใกล้ชิดกับ โวลเดอมอร์ กำลังถูกขังอยู่ในคุกอัซคาบัน ด้วยข้อหาใช้คำสาปทรมานกับมือปราบมาร ซึ่งเป็นพ่อแม่ของ เนวิลล์ ลองบ็อตทอม เพื่อนร่วมบ้านกริฟฟินดอร์ นั่นเอง ในวันสอบสวน ซิเรียสแจ้งความประสงค์ ที่จะไปกับแฮร์รี่และนายวิสลีย์ในร่างสุนัข แต่มีคำสั่งจากดัมเบิลดอร์ห้ามไว้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ซิเรียสข้องใจ เพราะ สมาชิกของ ?โองการ? ทุกคนแม้แต่ สเนป ต่างได้รับมอบหมายในภาระกิจสำคัญๆ ยกเว้นตัวเขาเองซึ่งมักจะต้องอยู่ประจำสำนักงานใหญ่ อันเป็นสิ่งที่ทำให้รู้สึกว่า ตนเองนั้น ไร้ประโยชน์ คณะกรรมการสอบสวนที่มีฟัดจ์เป็นประธาน พยายามทุกวิถีทางที่จะลงโทษแฮร์รี่ให้ได้ แต่ดัมเบิลดอร์มาช่วยแก้คดีให้ โดยมีมิสซิสฟิกก์มาเป็นพยาน ซึ่งดัมเบิลดอร์ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่อง ที่ผู้คุมวิญญาณมาเพ่นพ่านในโลกมักเกิ้ล กระทรวงเวทย์มนต์จำยอมปล่อยแฮร์รี่ให้พ้นคดี แฮร์รี่แปลกใจและขุ่นข้องที่ในการพบกันครั้งนี้ ดัมเบิลดอร์ไม่คุยกับเขานานๆ หรือแม้แต่สบตาเขาโดยตรงเลย แม้จะมารู้ทีหลังว่า ตัวดัมเบิลดอร์เองก็ถูกถอดถอนจากตำแหน่งต่างๆ ในสภาพ่อมด ถูกยึดเหรียญตรา และถูกกล่าวหาว่า เป็นคนหลอกลวง ตำแหน่งเดียวที่ดัมเบิลดอร์ยืนยันไม่ยอมละทิ้งก็คือ อาจารย์ใหญ่โรงเรียนฮอกวอร์ต หลังจากการสอบสวนเสร็จสิ้น แฮร์รี่ได้พบกับ ลูเชียส มัลฟอย ซึ่งเดินคุยไปกับฟัดจ์อย่างสนิทสนมเมื่อใกล้จะเปิดเทอม แฮร์รี่และพี่น้องวิสลีย์ได้รับจดหมายจากโรงเรียนตามที่เคย เฮอร์ไมโอนีได้รับแต่งตั้งเป็นพรีเฟ็ค ที่น่าประหลาดใจและแฮร์รี่ข้องใจอยู่เงียบๆ ก็คือ รอนได้รับเลือกให้เป็นพรีเฟ็คแต่ตนเองกลับไม่ได้ ทั้งๆ ที่เขาคิดว่า ตนเองมีความสามารถมากกว่า มูดดี้พยายามทำให้แฮร์รี่รู้สึกดีขึ้นด้วยการมอบรูปถ่ายเก่าให้แก่แฮร์รี่ ซึ่งเป็นรูปถ่ายสมาชิก ?โองการแห่งนกฟินิกส์? ในยุคก่อน ในจำนวนนั้น นอกจากพ่อแม่ของเขา ซิเรียส ลูปิน ก็ยังมีหางหนอน และพ่อแม่ของเนวิลล์รวมอยู่ด้วย รูปนี้จึงไม่ทำให้รู้สึกดีขึ้นแม้แต่น้อย ในวันเปิดเทอม รถเมล์อัศวินราตรีมารับเด็กๆ ไปสถานีรถไฟโดยมีลูปิน และแม่มดอีกคนชื่อ? คุ้มกันไปด้วย และในครั้งนี้ ซิเรียสดึงดันที่จะไปส่งแฮร์รี่จนได้ ที่สถานีรถไฟ แฮร์รี่พบกับพ่อลูกมัลฟอย เขาพบว่า เดรโก มัลฟอย ได้เป็นพรีเฟ็คเช่นกัน นอกจากนี้ เขามีความรู้สึกว่า มัลฟอยผู้พ่อจะต้องจำซิเรียสได้ เนื่องจากได้ข้อมูลจาก หางหนอน บนรถไฟ รอนกับเฮอร์ไมโอนีแยกไปปฐมนิเทศก์ที่ตู้พรีเฟ็ค แฮร์รี่จึงต้องนั่งอยู่กับพี่น้องวิสลีย์คนอื่นๆ พร้อมทั้งเพื่อนของจินนีอีกคนหนึ่งชื่อ ลูน่า เลิฟกู๊ด เด็กผู้หญิงท่าทางแปลกๆ จากบ้านเรเวนคลอ ลูกสาวบรรณาธิการนิตยสาร ควิบเบลอร์ ลูน่าเล่าว่า แม้ผู้คนหาว่าหนังสือของพ่อเธอเชื่อถือไม่ได้ แต่ ควิบเบลอร์ จะลงข่าวที่ เดลี พรอเฟ็ต ไม่กล้าลง พวกมัลฟอยมาหาเรื่องอีกเช่นเคย พอดีศาสตราจารย์ฟลิตวิกมาขัดจังหวะพอดี เมื่อถึงโรงเรียน แฮร์รี่สังเกตเห็นม้าลากรถมีปีก หน้าตาประหลาด ทั้งๆ ที่คนอื่นไม่เห็น แต่น่าแปลกใจว่า คนที่เห็นม้าลากรถอีกคนหนึ่งคือลูน่า ที่โรงเรียน แฮร์รี่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์หลายอย่างนับตั้งแต่มาถึง บรรดานักเรียนพากันมองดูเขา และซุบซิบอย่างหวาดระแวง แฮกริดหายไป เพลงใหม่ของหมวกคัดสรรเตือนในเรื่องความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว และที่สำคัญ อาจารย์สอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดคนใหม่คือ ศาสตราจารย์ โดโลเรส อัมบริดจ์ นั้น เป็นเลขานุการของรัฐมนตรีกระทรวงเวทย์มนต์ ซึ่งแฮร์รี่เคยพบเธอในห้องสอบสวน อัมบริดจ์กล่าวคำทักทายในงานเลี้ยงโดยเน้นย้ำเรื่องกฎระเบียบที่ต้องปฏิบัติ เฮอร์ไมโอนีตั้งข้อสังเกตว่า กระทรวงเวทย์มนต์พยายามแทรกแซงกิจการของโรงเรียน แอนเจลินา จอห์นสัน กัปตันทีมควิดดิชคนใหม่ ของกริฟฟินดอร์มาบอกแฮร์รี่ว่าจะมีการคัดเลือกคีปเปอร์มาแทนวู้ดซึ่งเรียนจบไปแล้ว ให้เตรียมตัวให้พร้อมในวันเสาร์ที่จะถึง และเขาต้องแตกคอกับ เซมัส ฟินิกัน ซึ่งถูกแม่ห้ามไม่ให้คบกับแฮร์รี่อีก เนื่องมาจากข่าวที่ลงใน เดลี พรอเฟ็ต ในการเปิดเรียนวันแรก นักเรียนปีห้าได้รับการเน้นย้ำเรื่องการสอบ ว.พ.ส. ที่จะมาถึง ทุกวิชาต้องเรียนอย่างหนัก เพื่อเตรียมตัวสอบ แต่ศาสตราจารย์อัมบริดจ์นั้น แทนที่จะสอนนักเรียนตามที่ควรจะทำ กลับสอนแต่ทฤษฎี ซ้ำยังตั้งกฎเกณฑ์ต่างๆ และการลงโทษอย่างเคร่งครัด แฮร์รี่เป็นคนแรกที่ต่อต้านการกระทำนี้ ด้วยการพูดสิ่งที่กระทรวงกล่าวหาตลอดมาว่า โกหก นั่นคือ ?โวลเดอมอร์กลับมาแล้ว? ถึงแม้เขาทำให้นักเรียนทั้งชั้นพลอย ต่อต้านอัมบริดจ์ แต่ก็ถูกอัมบริดจ์สั่งกักบริเวณเป็นเวลา 5 วัน นับตั้งแต่วันถัดมา ในห้องทำงานของเธอ ด้วยวิธีการลงโทษที่ทารุณ มิหนำซ้ำยังต้องพลาดการคัดตัวคีปเปอร์ อย่างไรก็ตาม เขาพบว่า แม้นักเรียนส่วนใหญ่จะคิดเหมือนเซมัส แต่ก็มีไม่น้อยที่เชื่อถือคำพูดของเขา ในจำนวนนี้นอกจาก เนวิลล์ ซึ่งบอกว่า คุณย่าของเขาเชื่อมั่นในตัวดัมเบิลดอร์แล้ว ก็มี เออร์นี แมคมิลลัน บ้านฮัฟเฟิลพัฟ และ โช แชง จากเรเวนคลอ ซึ่งทำให้แฮร์รี่รู้สึกดีขึ้นมาก ผลการคัดตัวคีปเปอร์ ปรากฎว่า รอน ซึ่งแอบซุ่มซ้อมตลอดมาได้รับการคัดเลือก แต่ในการฝึกทำไม่ได้ดีเท่าไร ทำให้ถูกพวกสลิธีรินที่มาแอบดูการฝึกเยาะเย้ยถากถางและทำให้ทั้งทีมวิตกกังวล ส่วนตัวเองก็ขาดความมั่นใจ อัมบริดจ์ นอกจากคอยจับผิดแฮร์รี่แล้ว ยังวางอำนาจมากขึ้นด้วยการตั้งกฎข้อบังคับสารพัด มิหนำซ้ำยังแต่งตั้งตัวเอง เป็นกรรมการสอบสวนประจำโรงเรียน อีกทั้งไปสังเกตการสอนของอาจารย์ทุกคน และประเมินผล ทำให้ทั้งโรงเรียนนอกจากพวกสลิธีริน ไม่พอใจ แต่ดัมเบิลดอร์ยังวางเฉยอย่างน่าประหลาด แฮร์รี่เริ่มฝันถึง โวลเดอมอร์ ในความฝันเขารู้สึกเหมือนกับว่า ตัวเองเป็นโวลเดอมอร์ เฮอร์ไมโอนียุให้แฮร์รี่เปิดสอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืด ให้แก่นักเรียนคนอื่นๆ อย่างลับๆ เพื่อเตรียมตัวสอบ ว.พ.ส. แฮร์รี่จำใจยอมและได้เพื่อนนักเรียนทั้งจากบ้านเดียวกันและบ้านอื่นๆ ทั้งหมด 28 คน รวมถึง โช แชง ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองจึงก่อตัวขึ้น แม้ว่าโชจะมีอาการแปลกๆ ที่เขาไม่เข้าใจ ด้วยความช่วยเหลือจาก ด๊อบบี้ เอล์ฟประจำบ้าน พวกเขาได้สถานที่ลับในการฝึก ซึ่งเป็นห้องที่เรียกว่า ?ห้องตามความประสงค์? ซึ่งจะเป็นห้องที่จะปรากฎขึ้นเมื่อมีผู้ต้องการใช้ และจะเปลี่ยนแปลงไปตามความต้องการของผู้ใช้ พวกเขาตั้งชื่อกลุ่มว่า ?กองทัพของดัมเบิลดอร์? โดยเรียกย่อๆ ว่า ?ก.ด.? ที่ได้ชื่อนี้เพราะรู้ว่า การที่อัมบริดจ์ไม่ยอมสอนภาคปฏิบัติ ให้กับนักเรียนเพราะทางกระทรวงฯ กำลังหวาดระแวงดัมเบิลดอร์นั่นเอง แฮร์รี่เกรงว่า ความลับจะแตก เพราะอัมบริดจ์ทำท่าทางคล้ายๆ จะสงสัย เพราะเธอเคยพยายามจะล่อลวงให้เขาเล่าเรื่องเกี่ยวกับดัมเบิลดอร์มาแล้ว แต่เฮอร์ไมโอนีบอกว่า เธอใช้เวทย์มนต์บางอย่างที่จะทำให้รู้ได้ทันที หากมีผู้เปิดเผยความลับ การฝึกวิชาเป็นไปด้วยดี แฮร์รี่มีกำลังใจขึ้น และความสัมพันธ์กับโช ก็ก้าวหน้าขึ้นด้วย ถึงกับมีนัดกัน เมื่อถึงวันไปเที่ยวฮอกส์มี้ด คราวต่อไป ซึ่งจะตรงกับวันวาเลนไทน์พอดี ระหว่างนี้ เดลี พรอเฟ็ต ลงข่าวการบุกรุกห้องทำงานของกองปริศนา ในกระทรวงเวทย์มนต์แต่ถูกจับได้ของพ่อมดคนหนึ่ง ซึ่งเป็นสมาชิกของ ?โองการ? แฮร์รี่ส่งจดหมายถึงซิเรียส แต่ทั้งๆ ที่ระวังอย่างดี เฮ็ดวิกยังถูกโจมตีจนได้รับบาดเจ็บในตอนที่นำจดหมายกลับมาให้ อัมบริดจ์ออกกฎว่า จะมีการตรวจสอบจดหมายทุกฉบับ จึงทำให้การติดต่อกับซิเรียสยิ่งลำบากขึ้น ซิเรียสแอบมาหาที่โรงเรียน ผ่านทางเตาผิงด้วยผงฟลู แต่เกือบถูกอัมบริดจ์จับได้ ในการแข่งขันควิดดิชนัดแรกกับสลิธีริน รอนวิตกกังวลจนเล่นพลาด ถูกมัลฟอยและทีมสลิธีรินเยาะเย้ย แฮร์รี่และฝาแฝดวิสลีย์โกรธจนลืมตัว ถึงกับเข้าไปทำร้าย อัมบริดจ์ซึ่งเข้าข้างสลิธีรินอยู่แล้วสั่งห้ามทั้ง สามคนเล่นควิดดิชและยึดไม้กวาด กริฟฟินดอร์จึงต้องหาผู้เล่นใหม่และได้ จินนี่ มาแทนแฮร์ ที่สุด แฮกริดก็กลับมา และเล่าเรื่องการเดินทางไปเกลี้ยกล่อมยักษ์ ให้เข้าเป็นพวกแต่ประสบความล้มเหลวให้ฟัง แฮกริดมีบาดแผลเต็มตัวแต่ไม่ยอมบอกว่า เกิดจากอะไร พวกแฮร์รี่เกรงว่า แฮกริดจะไม่ผ่านการตรวจสอบการสอนของอัมบริดจ์ เพราะศาสตราจาย์ทริลอว์นีย์ ก็ถูกภาคฑัณฑ์มาแล้วเนื่องจากการสอนไม่เป็นที่น่าพอใจ แต่แฮกริดก็ไม่สนใจ เขาใช้ตัว ธีสธรัล ซึ่งเป็นสัตว์ที่ที่ใช้ลากรถนักเรียนและอาศัยอยู่ในป่าต้องห้ามมาใช้ในการสอน เมื่อใกล้วันคริสต์มาส แฮร์รี่ฝันเห็นนายวิสลีย์ถูกงูกัด เลือดไหลเต็มตัวในห้องที่จำได้ว่า เป็นห้องกองปริศนาของกระทรวงเวทย์มนต์ ในฝัน ตัวเขาเองคืองู เมื่อตกใจตื่น เขาเล่าความฝันให้ศาสตราจารย์มักกอลนากัล ซึ่งเนวิลล์ไปตามให้ฟัง มักกอลนากัลจึงพาแฮร์รี่ไปหาดัมเบิลดอร์ เมื่อดัมเบิลดอร์ให้คนรีบไปดูนายวิสลีย์และพบว่าเป็นความจริง ก็ให้พี่น้องวิสลีย์และแฮร์รี่เดินทางไปสำนักงานใหญ่ของ ?โองการแห่งนก ฟินิกส์? ซึ่งเป็นบ้านของซิเรียส และคอยฟังข่าวที่นั่นนายวิสลีย์ถูกนำส่งโรงพยาบาลได้ทันท่วงที และปลอดภัยในที่สุด ทุกคนรวมทั้งสมาชิก ของโองการไปเยี่ยมแฮร์รี่ที่โรงพยาบาลเซ็นต์มังโกฯ พวกสมาชิกปรึกษากันเกี่ยวกับเรื่องที่แฮร์รี่ฝัน แฮร์รี่และพี่น้องวิสลีย์แอบฟังโดยใช้เครื่องมือที่เฟร็ดและจอร์จประดิษฐ์ขึ้น และได้รู้ว่า สิ่งที่ทุกคนกำลังหวาดวิตกก็คือ แฮร์รี่อาจถูกโวลเดอมอร์ครอบงำจิตใจเพราะทั้งสองมีการเชื่อมต่อบางอย่างอยู่ แฮร์รี่ตกใจมาก เขาเกรงว่าหากเป็นเช่นนั้นจริง โวลเดอมอร์อาจจะล่วงรู้เรื่องของพวกโองการโดยผ่านทางเขา และยังระแวงว่า คนอื่นๆ กลัวเขา หลังจากกลับจากโรงพยาบาล แฮร์รี่พยายามหลบหน้าใครต่อใคร ถึงกับคิดจะหนีออกจากบ้าน แต่แล้วได้จินนี่เป็นผู้ปลอบใจเพราะเธอเองเคยถูกโวลเดอมอร์ครอบงำมาแล้ว เธอเล่าว่า เธอจำเหตุการณ์ในขณะที่ถูกครอบงำไม่ได้ ดังนั้น ความฝันของแฮร์รี่จึงไม่ใช่การถูกครอบงำเพราะเขาจำได้ทุกอย่าง แฮร์รี่โล่งใจและฉลองคริสต์มาสอย่างมีความสุขเช่นเดียวกับซิเรียสที่เบิกบานเป็นพิเศษ พวกแฮร์รี่ไปเยี่ยมนายวิสลีย์ที่โรงพยาบาลอีกครั้งในวันคริสต์มาส พวกเขาได้พบกับ กิลเดอร์รอย ล็อกฮาร์ต อาจารย์เก่าซึ่งเคยสอนพวกเขาและสูญเสียความทรงจำ จึงต้องตามเข้าไปเยี่ยมถึงในห้องตามที่ผู้เยียวยา (Healer) ประจำตัวล็อกฮาร์ต เชื้อเชิญ พวกเขาได้พบกับเนวิลล์และคุณย่าซึ่งมาเยี่ยมพ่อแม่ของเนวิลล์ รอนและเฮอร์ไมโอนีจึงพลอยรู้เรื่องของเนวิลล์ไปด้วย เมื่อกลับมาจากโรงพยาบาล แฮร์รี่ได้พบกับสเนป ซึ่งมาแจ้งว่า ดัมเบิลดอร์มีคำสั่งให้สอนแฮร์รี่ฝึก ?มนต์กำบังจิต? เพื่อป้องกันไม่ให้โวลเดอมอร์เข้ามาอ่านจิตได้ โดยจะฝึกทุกเย็นวันจันทร์หลังเลิกเรียน หากมีใครถามให้บอกว่า เรียนซ่อมเสริมวิชาปรุงยา ซิเรียสและสเนปมีปากเสียงและเกือบจะถึงขั้นต่อสู้กัน ถ้าคนอื่นๆ ไม่มาเห็นเข้าพอดี เมื่อกลับมาที่โรงเรียน แฮร์รี่เริ่มฝึกมนต์กำบังจิตกับสเนป เขาสังเกตว่าสเนปจะใช้ เพนซิฟ ซึ่งเป็นอ่างวิเศษสำหรับเก็บความทรงจำของดัมเบิลดอร์ นำความทรงจำบางอย่างไปเก็บไว้ก่อนที่จะเริ่มสอน และจะนำกลับคืนมาทุกครั้งที่สอนเสร็จ แฮร์รี่จะต้องฝึกจิตให้ว่างก่อนนอนทุกคืนอีกด้วย แต่เขาไม่ตั้งใจฝึกสักเท่าไร เพราะคิดว่า ถ้าสามารถอ่านจิตของโวลเดอมอร์ได้ ก็อาจจะสามารถป้องกันเหตุร้ายได้อย่างที่เคยฝันเกี่ยวกับนายวิสลีย์ และเขามักจะฝันว่า เดินไปตามทางมืดๆ ที่จำได้ว่า เป็นทางเดินไปกองปริศนาในกระทรวงเวทย์มนต์นั่นเอง ความฝันจะต่อเนื่องตั้งแต่การพยายามหาทางเข้าไปในห้องจนสำเร็จ การฝึกมนต์กำบังจิตจึงไม่ก้าวหน้าสักเท่าไร ซึ่งทำให้สเนปโกรธ มีเพียงครั้งเดียวที่เขาเข้าไปอ่านจิตของสเนปสำเร็จและได้เห็นอดีตบางส่วนสมัยเด็กของสเนป เดลี พรอเฟ็ตลงข่าวเป็นระยะๆ ทั้งการแหกคุกครั้งใหญ่ของบรรดาสมุนเก่าของโวลเดอมอร์ โดยข่าวลงว่ามีการสงสัยว่า ซิเรียส แบล็ค เป็นผู้มาช่วยเหลือ และยังมีข่าวการตายของเจ้าหน้าที่กระทรวงเวทย์มนต์ที่ทำงานอยู่ในกองปริศนาและกำลังป่วยด้วยอาการสูญเสียการพูด อยู่ที่โรงพยาบาล พวกแฮร์รี่เคยไปพบอยู่ในห้องเดียวกับล็อกฮาร์ตและพ่อแม่ของเนวิลล์ เขาสังหรณ์ว่า จะต้องมีอาวุธบางอย่างที่โวลเดอมอร์ต้องการในห้องนั้น ก่อนถึงวันไปเที่ยวฮอกส์มี้ดซึ่งแฮร์รี่มีนัดกับโช เฮอร์ไมโอนีนัดให้เขาไปพบที่ร้านไม้ กวาดสามอันในตอนบ่าย โดยบอกว่ามีเรื่องสำคัญและเขาจะพาโชไปด้วยก็ได้ โชพาแฮร์รี่ไปดื่มน้ำชาที่ร้านของมาดามพุดดิฟู้ต แต่เธอพูดและมีกิริยาแปลกๆ ที่เขาไม่เข้าใจโดยพูดถึงเซดริก และนักเรียนชายคนอื่นๆ ที่เคยมาขอนัดกับเธอ เพื่อทดสอบปฏิกิริยาของเขา และเมื่อเขาบอกว่า เขามีนัดกับเฮอร์ไมโอนี โชจึงไม่พอใจและจากไป ยิ่งทำให้เขางงมากขึ้น เมื่อแฮร์รี่ไปพบกับเฮอร์ไมโอนี ก็ได้พบ ลูน่า เลิฟกู๊ด และ ริต้า สกีตเตอร์ อดีตนักข่าวของ เดลี พรอเฟ็ต เฮอร์ไมโอนีวางแผนให้แฮร์รี่เล่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นตอนที่เผชิญหน้ากับโวลเดอมอร์ โดยให้ริต้าสัมภาษณ์ลงในนิตยสาร ควิบเบลอร์ รวมทั้งเปิดเผยรายชื่อของผู้เสพความตายด้วย ทันทีที่หนังสือออกมาก็ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม ทั้งๆ ที่อัมบริดจ์สั่งให้เก็บหนังสือฉบับนี้ทั้งหมด ผู้คนตื่นตัวกันเป็นการใหญ่แลหันมาเชื่อถือแฮร์รี่อีกครั้ง และโชก็มาคืนดีด้วย อัมบริดจ์ไล่ทริลอว์นีย์ออก แต่ดัมเบิลดอร์ยังอนุญาตให้อยู่ที่หอคอยเดิมของเธอ และขอให้เซ็นทอร์ชื่อ ฟิเรนเซ มาสอนวิชาพยากรณ์แทน ซึ่งทำให้เซนทอร์ตนอื่นๆ โกรธที่ฟิเรนเซมายุ่งเกี่ยวกับมนุษย์และเปิดเผยพรสวรรค์อันถือเป็นความลับ จึงถูกขับไล่ออกมาจากป่า เมื่อหมดชั่วโมง ฟิเรนเซบอกให้แฮร์รี่ไปเตือนแฮกริดว่า ?ที่พยายามอยู่นั้นไม่สำเร็จหรอก เลิกล้มเสียเถอะ? แต่ไม่ยอมบอกรายละเอียดมากไปกว่านั้นเพราะถือว่า เป็นความลับของแฮกริดเอง กลุ่มลับของแฮร์รี่ถูกอัมบริดจ์จับได้เพราะสมาชิกคนหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนของโช แต่ไม่เต็มใจมาเรียนนั้นแอบไปบอกด้วยกลัวความผิด แต่ดัมเบิลดอร์ออกรับแทน ฟัดจ์ซึ่งได้รู้เรื่องนี้และเดินทางมาโรงเรียนสั่งจับ แต่ดัมเบิลดอร์หนีไปได้ด้วยพลังอำนาจที่เหนือกว่า เรื่องนี้นอกจากทำให้กลุ่มต้องเลิกล้มแล้ว แฮร์รี่ยังต้องทะเลาะกับโชและเลิกกันในที่สุด อัมบริดจ์ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นอาจารย์ใหญ่ของ ฮอกวอร์ต แต่ได้รับการต่อต้านจากอาจารย์คนอื่นๆ และนักเรียนส่วนใหญ่ เฟร็ดกับจอร์จลอบก่อความวุ่นวาย ในโรงเรียนโดยคนอื่นๆ แอบสนับสนุนอยู่เงียบๆ เพราะอยากเห็นอัมบริดจ์วิ่งวุ่น วันหนึ่งระหว่างการเรียนมนต์กำบังจิต เมื่อสเนปมีธุระต้องออกไปจากห้องชั่วคราว แฮร์รี่แอบเข้าไปดูความทรงจำของสเนปในเพนซิฟ เขาได้พบกับพ่อแม่ของเขาและเพื่อนๆ ตอนที่อยู่ปี 5 ได้เห็นว่า พ่อของตัวเองกลั่นแกล้งสเนปให้ขายหน้าเพียงเพื่อความสนุก นี่คือสาเหตุที่ทำให้สเนปเกลียดพ่อของเขาและเพื่อนๆ เข้ากระดูกดำ สเนปจับได้ก็โกรธจัดถึงกับไล่แฮร์รี่ออกจากห้อง และเลิกสอนมนต์กำบังจิต แฮร์รี่ข้องใจเรื่องของพ่อของตน เขาเคยได้ยินอัมบริดจ์บอกว่า เตาผิงทุกเตาผิงในโรงเรียนจะถูกกระทรวงฯ คอยสอดส่องเครือข่ายผงฟลู นอกจากเตาผิงในห้องทำงานของเธอ จึงไปขอความช่วยเหลือ จากเฟร็ดและจอร์จให้ล่ออัมบริดจ์ออกไปจากห้อง และเดินทางไปที่บ้านของซิเรียส เพื่อถามข้อที่ข้องใจ ในระหว่างที่คุยอยู่กับซิเรียสและลูปิน แฮร์รี่ได้ยินเสียงเตือนให้กลับ เมื่อกลับมาถึงก็พบว่า อัมบริดจ์จับฝาแฝดวิสลีย์ได้ เพราะแฮร์รี่อาศัยผ้าคลุมล่องหนจึงไม่ถูกจับไปด้วย แต่เฟร็ดกับจอร์จใช้คาถาเรียกของเรียกไม้กวาดของตนและหนีไปจากโรงเรียนจนได้ ระหว่างการแข่งขันควิดดิช ระหว่างกริฟฟินดอร์กับเรเวนคลอ แฮกริดมาตามแฮร์รี่กับเฮอร์ไมโอนี่ เขาบอกว่า เขาจะไปจากฮอกวอร์ตก่อนที่จะถูกอัมบริดจ์ไล่ออก แฮกริดพาเด็กทั้งสอง เข้าไปในป่าต้องห้ามเพื่อเปิดเผยความลับ ทั้งสองได้พบกับน้องชายแม่เดียวกับแฮกริดชื่อ กร็อป (Grawp) ซึ่งแฮกริดแอบพามาด้วย แฮกริดฝากฝังแฮร์รี่และเฮอร์ไมโอนี ให้ช่วยดูแลน้องชายของตน ทั้งสองยอมรับคำโดยไม่เต็มใจ ระหว่างที่กลับออกมาก็พบกับพวกเซ็นทอร์ พวกนั้นห้ามไม่ให้พวกเขากลับเข้ามาในป่าอีก เมื่อกลับมาถึงก็พบว่า การแข่งขันจบลงโดยกริฟฟินดอร์มีชัย ในระหว่างการสอบ ว.พ.ส. แฮร์รี่เห็นอัมบริดจ์พาเจ้าหน้าที่ของกระทรวงไปจับแฮกริด แฮกริดหนีไปได้ แต่มักกอลนากัลซึ่งมาช่วยนั้นถูกคาถาหยุดนิ่งจนต้องถูกพาไปโรงพยาบาล ทำให้แฮร์รี่รู้สึกโดดเดี่ยว เพราะคิดว่า ขณะนี้ไม่มีสมาชิกของโองการเหลืออยู่ในโรงเรียนอีกแล้ว เขายังฝันเห็นซิเรียสถูกผู้เสพความตายจับ เขาเป็นกังวลถึงขนาดลอบเข้าไปในห้องทำงานของอัมบริดจ์อีกครั้งเพื่อใช้เตาผิงไปที่บ้านของซิเรียส เขาพบแต่ ครีเชอร์ เอลฟ์ประจำบ้านของซิเรียส ครีเชอร์บอกว่า ซิเรียสไม่อยู่ทำให้แฮร์รี่ตกใจมาก ยิ่งกว่านั้นเมื่อกลับมาก็พบว่า ถูกอัมบริดจ์จับได้ อัมบริดจ์บังคับให้สารภาพ แต่เขาไม่ยอม เธอให้สเนปเตรียมน้ำยา สัจจะเซรุ่ม แต่สเนปอ้างว่า จะต้องใช้เวลาเตรียมนาน ทำให้เธอโกรธมาก แฮร์รี่จึงนึกได้ว่า ยังเหลือสเนปอยู่อีกคนหนึ่ง เขาตะโกนบอกสเนปเป็นนัยๆ เรื่องซิเรียส เฮอร์ไมโอนีทำท่าเหมือนจะสารภาพ เธอบอกว่า ดัมเบิลดอร์สั่งให้พวกเขาทำอาวุธ อัมบริดจ์จึงบังคับให้แฮร์รี่และเฮอร์ไมโอนีพาไปหาอาวุธนั้น เฮอร์ไมโอนีนำเข้าไปในป่าต้องห้าม ทั้งสามคนได้พบกับพวกเซ็นทอร์ที่โกรธแค้น อัมบริดจ์พยายามต่อสู้แต่ถูกจับไป แฮร์รี่และเฮอร์ไมโอนีก็เกือบจะถูกทำร้ายแต่ กร็อป น้องชายยักษ์ของแฮกริด ซึ่งออกมาตามหาพี่ชายมาช่วยโดยไม่ตั้งใจและไล่พวกเซ็นทอร์ลึกเข้าไปในป่า ขณะที่ทั้งสองกำลังหาทางออกจากป่าก็พบรอน จินนี่ ลูน่า และเนวิลล์ ซึ่งออกมาช่วยพอดี แฮร์รี่ตัดสินใจจะบุกไปที่กระทรวงเวทย์มนต์เพื่อช่วยซิเรียสตามลำพัง แต่พวกเพื่อนๆ ตั้งใจที่จะไปด้วย ลูน่าจึงเรียกตัว ธีสธรัล มาใช้เป็นพาหนะ เมื่อไปถึง แฮร์รี่อาศัยความทรงจำ จากความฝันนำทางไปจนถึงห้องทำงานของกองปริศนา ที่มีประตูอยู่มากมายและหาทางเข้าไปในห้องได้ในที่สุด และได้พบกับลูกแก้วพยากรณ์ลูกหนึ่ง ซึ่งมีชื่อของโวลเดอมอร์และแฮร์รี่ ทันทีที่เขาหยิบลูกแก้วพยากรณ์ขึ้นมา ลูเชียส มัลฟอยและเหล่าผู้เสพความตายก็ปรากฎตัวขึ้น กลายเป็นว่า โวลเดอมอร์สร้างแผนลวงให้แฮร์รี่มาติดกับ แม้เด็กๆ จะพยายามสู้พลางหนีพลาง แต่ด้วยความด้อยประสบการณ์จึงพลาดท่า พอดีซิเรียสและพวกมาช่วยโดยให้พวกเด็กๆ หนีไป แฮร์รี่ทำลูกแก้วตกและกลิ้งหายไปขณะที่ช่วยพยุงเนวิลล์และได้พบกับดัมเบิลดอร์ เขาวิ่งกลับเข้าไปในห้องที่พวกซีเรียสกำลังสู้ กับผู้เสพความตาย และทันเห็นเบลลาทริกซ์ฆ่าซิเรียสซึ่งกำลังประมาทพอดี แฮร์รี่ตกใจและโกรธจนลืมตัว เขาวิ่งตามเบลลาทริกซ์ออกไป แต่เล้วก็ต้องเผชิญหน้ากับ โวลเดอมอร์ให้แฮร์รี่นำลูกแก้วลูกนั้นมาให้ตน ดัมเบิลดอร์ตามมาช่วยไว้ทัน โดยเสกรูปปั้นที่อยู่ในห้องโถงของกระทรวงเวทย์มนต์มาช่วยคุ้มครองแฮร์รี่ ป้องกันไม่ให้เบลลาทริกซ์หลบหนี ส่วนตนเองก็ต่อสู้กับโวลเดอมอร์ เมื่อโวลเดอมอร์สู้ไม่ได้หนีไป ความโกลาหลครั้งนี้ถูกฟัดจ์ มือปราบมาร และคนอื่นๆ ในกระทรวงพบเห็นในที่สุด ดัมเบิลดอร์ให้แฮร์รี่กลับไปที่ห้องอาจารย์ใหญ่ที่โรงเรียนด้วยกุญแจนำทาง หลังจากอธิบายให้พวกกระทรวงฟังแล้วก็กลับมาหาแฮร์รี่ ดัมเบิลดอร์เล่าทุกอย่างให้แฮร์รี่ที่กำลังโกรธแค้น ฟังมากมาย นับตั้งแต่เรื่องที่แฮร์รี่ฝันเห็นซีเรียสถูกจับ เมื่อโวลเดอมอร์รู้ว่า แฮร์รี่เข้าไปในจิตของตนจึงสร้างภาพลวงตา เพราะอ่านจิตของเขาได้เช่นกันว่า คนที่แฮร์รี่รักที่สุด คือ ซิเรียส และถูก ครีเชอร์ เอลฟ์ประจำบ้านของซีเรียสหลอกเรื่องที่ว่า ซีเรียสไม่อยู่บ้าน เป็นเหตุให้แฮร์รี่เข้าใจผิดและไม่คิดหน้าคิดหลัง เพราะความจริงแล้ว ครีเชอร์ ไม่จงรักภักดีกับซีเรียสตามที่ควร แฮร์รี่ยังได้รู้ว่า แท้จริงแล้ว สเนปให้ความช่วยเหลืออย่างลับๆ ตลอดมา ดัมเบิลดอร์ยอมรับว่า คิดผิดไปที่ไม่ได้เล่าความเป็นมาต่างๆ ให้ฟังเพราะมักคิดว่า แฮร์รี่ยังอายุน้อยเกินไป

Harry Potter 6 แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ เลือดผสมปรินซ์


แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ เลือดผสมปรินซ์

เกิดอุบัติเหตุและฆาตกรรมทั้งในโลกพ่อมดและมักเกิ้ล คอร์นีเลียสฟัดจ์ถูกปลดจากรัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์ และรูฟัส สกริมเจอร์ได้เป็นรัฐมนตรีแทนทั้งสองคนมาแจ้งเหตุให้นายกรัฐมนตรีของมักเกิ้ลให้ทราบเพื่อจะได้ระวังตัวนาซิสซา(แม่ของเดรโก)และเบลลาทริกซ์เดินทางมาหาสเนปที่บ้านปรากฎว่าสเนปยังจงรักภักดีต่อโวลเดอมอร์ และทำหน้าที่สายลับในฮอกวอตส์โดยที่โวลเดอมอร์มีแผนจะใช้เดรโกกระทำบางอย่างนาซิสซาจึงขอให้สเนปสาบานว่าจะช่วยดูแลลูกชายของเธอ
ดัมเบิลดอร์มารับแฮร์รี่ที่บ้านเดอร์สลีย์ด้วยมือที่บาดเจ็บข้างหนึ่งและยังสวมแหวนแปลกประหลาดและอาจารย์ใหญ่ได้บอกแฮร์รี่ว่า แฮร์รี่ได้มรดกจากซีเรียสทั้งหมดรวมทั้งครีเชอร์ด้วยแฮร์รี่จึงได้ตัดสินใจส่งครีเชอร์ไปทำงานที่ฮอกวอตส์ดัมเบิลดอร์พาแฮร์รี่ไปหาเพื่อนเก่าชื่อ โฮเรส สลักกอร์นเพื่อขอให้กลับไปช่วยงานที่ฮอกวอตส์แฮร์รี่จึงได้รู้ว่าสลักกอร์นเคยเป็นอาจารย์ประจำบ้านสลิธีรินและตระกูลแบล็คเคยอยู่บ้านนี้ทุกคนยกเว้นซีเรียสหลังจากนั้นก็ไปส่งเด็กหนุ่มที่บ้านโพรงกระต่าย ก่อนจะไปได้บอกว่าเปิดเทอมนี้จะสอนวิชาพิเศษให้เขา โดยให้คำเตือนไว้ 2 ข้อ คือเก็บผ้าคลุมล่องหนไว้กับตัวเสมอ กับ ห้ามออกไปเที่ยวเพ่นพ่าน
แฮร์รี่เล่าเรื่องลูกแก้วพยากรณ์ให้รอนกับเฮอร์ไมโอนี่ฟังตามที่ดัมเบิลดอร์บอกเขาพบว่าเฟลอร์ เดอลากูร์มาอยู่ที่บ้านโพรงกระต่ายเพราะกำลังจะแต่งงานกับบิลโดยที่คุณนายวีสลีย์ไม่ค่อยเห็นชอบเท่าไหร่ นกฮูกส่งผลการสอบ ว.พ.ร.ส. มาให้ทั้งแฮร์รี่และรอนได้คะแนนสูงพอที่จะเป็นมือปราบมารและแฮร์รี่ยังได้เป็นกัปตันทีมควิดดิชอีกด้วยระหว่างนั้นมีข่าวการถูกทำร้ายและการหายตัวไปของพ่อมดอีกหลายคนรวมทั้งโอลิแวนเดอร์เจ้าของร้านไม้กายสิทธิ์กับฟอร์เตสคิว เจ้าของร้านไอศครีมในตรอกไดแอกอนด้วย
ในวันที่ไปซื้อของที่ตรอกไดแอกอน แฮร์รี่ รอน และเฮอร์ไมโอนี่มีเรื่องกับเดรโกและนาซิสซา ก่อนที่จะไปที่ร้านของเฟร็ดกับจอร์จที่อวดผลงานมากมายแฮร์รี่สังเกตเห็นมัลฟอยเดินผ่านหน้าร้านตามลำพัง ทั้งสามคนใช้ผ้าคลุมล่องหนตามไปเห็นมัลฟอยเข้าไปในร้าน บอร์เจนและเบิร์กในตรอกนอร์กเทิร์นเขาถามถึงวิธีการซ่อมแซมอะไรบางอย่างจากเจ้าของร้านกับให้เก็บของอย่างหนึ่งไว้ให้เขาเมื่อเดรโกออกจากร้านเฮอร์ไมโอนี่ออกไปตีขลุมถามเจ้าของร้านและพบว่าของที่เดรโกให้เก็บเป็นสร้อยคอเส้นหนึ่ง
วันที่นั่งรถไฟไปฮอกวอตส์แฮร์รี่พบสลักกอร์น และได้รับเชิญให้เข้าร่วมชมรมซึ่งสลักกอร์นรวบรวมเด็กเก่งและมีชื่อเสียงไว้ด้วยกันเมื่อลงจากรถไฟแฮร์รี่แอบตามไปดูมัลฟอยโดยใช้ผ้าคลุมล่องหนแต่ถูกจับได้และถูกทำร้ายแต่ท็องส์ซึ่งได้รับคำสั่งให้มาประจำการที่ ฮอกส์มี้ดมาช่วยไว้ได้
เมื่อรถไฟมาถึงโรงเรียน เขาได้รู้ว่าสลักกอร์นได้รับเชิญให้มาสอนวิชาปรุงยาในขณะที่สเนปได้สอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดเนื่องจากในปีนี้นักเรียนจะสามารถยกเว้นวิชาที่ไม่ต้องการได้แฮร์รี่จึงไม่ได้ซื้อหนังสือวิชาปรุงยาศาสตราจารย์มักกอนนากัลทราบก็บอกว่าศาสตราจารย์สลักกอร์นน่าจะมีให้ยืมนอกจากนี้สามสหายยังเลิกเรียนวิชาดูแลสัตว์วิเศษซึ่งยังความผิดหวังให้กับแฮกริดอย่างยิ่ง
เมื่อถึงวิชาปรุงยาศาสตราจารย์สลักกอร์นให้แฮร์รี่ยืมหนังสือเก่าที่อยู่ในตู้หนังสือ ในห้องเด็กหนุ่มพบว่าหนังสือที่เขาใช้มีโน้ตอยู่เต็มไปหมด และยังเขียนว่าเป็นของ Half-Blood Prince เมื่อถึงเวลาเรียนเขาทำตามที่โน้ตเขียนไว้และประสบความสำเร็จขนาดชนะเฮอร์ไมโอนี่ศาสตราจารย์สลักกอร์นซึ่งชื่นชอบแฮร์รี่เป็นการส่วนตัวอยู่ก่อนแล้วได้ให้ยา โชคดี ' ขวดหนึ่งเป็นรางวัล ขณะที่ในวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืด สเนปเริ่มสอนการใช้เวทมนตร์โดยไม่ท่องคาถา รวมถึงวิชาอื่นๆเช่นกันและในปีนี้พวกเขาจะได้เรียนวิชาหายตัวอีกด้วย แฮร์รี่ใช้หนังสือเล่มนั้นต่อต่อมาแม้เฮอร์ไมโอนี่จะคัดค้านแต่ทั้งเขาและรอนไม่ได้สนใจ เพราะนอกจากวิธีปรุงยายังมีโน้ตคาถาแปลกๆ อีกด้วย
เมื่อถึงเวลานัดหมายไปเรียนพิเศษกับดัมเบิลดอร์ในแต่ละครั้งแทนที่ครูใหญ่จะสอน กลับพาเด็กหนุ่มเข้าไปในเพนซิฟเพื่อดูความจำเรื่องอดีตของลอร์ดโวลเดอมอร์เท่าที่ดัมเบิลดอร์จะรวบรวมได้จากความทรงจำของหลายๆคนรวมทั้งตัวเขาเอง แฮร์รี่จึงได้รู้ว่า โวลเดอมอร์เป็นเชื้อสายของซัลลาซาร์สลิธีริน แฮร์รี่ได้เห็น มาร์โวโล กอนท์ ผู้เป็นตา มอร์ฟินผู้เป็นลุง และเมอโรปีแม่ของโวลเดอมอร์ พวกเขาครอบครองแหวนกับจี้ห้อยคอซึ่งเป็นมรดกตกทอดเมอโรปีหลงรักมักเกิ้ลชื่อ ทอม ริดเดิ้ลเมื่อเธออยู่ตามลำพังหลังจากพ่อและพี่ชายถูกจับข้อหาทำร้ายมักเกิ้ลและเจ้าพนักงานเธอก็ใช้ยาเสน่ห์กับริดเดิ้ลและหนีไปกับเขา หากเมื่อเธอเลิกใช้ยาในภายหลังเขาก็หนีเธอมาทั้งๆ ที่เธอกำลังตั้งท้อง เธอหมดอาลัยตายอยากและยากจนถึงกับต้องขายมรดกไปถูกๆเธอซมซานไปจนถึงบ้านเลี้ยงเด็กกำพร้าของมักเกิ้ลแห่งหนึ่ง เมื่อคลอดลูกแล้วก็ตายไปต่อมาดัมเบิลดอร์เป็นผู้ไปหาริดเดิ้ลเพื่อแจ้งเรื่องที่ได้เข้าเรียนในฮอกวอตส์เขาพบว่า ริดเดิ้ลส่อแวว ทะนงตน ชอบเอาชนะ และพอใจกับการทำร้ายคนมาตั้งแต่เด็กๆรวมทั้งชอบเก็บของผู้ถูกทำร้ายไว้ต่างถ้วยรางวัล
แฮร์รี่ยังได้รู้ว่าริดเดิ้ลเคยอยู่ในชมรมของสลักกอร์นเขาเห็นริดเดิ้ลถามเรื่อง กล่องวิญญาณ ( Horcruxes) แต่ยังไม่รู้ว่าคืออะไรความทรงจำช่วงนี้ก็ขาดหายเพราะสลักกอร์นผู้เป็นเจ้าของได้ลบความทรงจำส่วนนี้ไปดัมเบิลดอร์ให้เด็กหนุ่มไปถามแต่ก็ผู้เป็นเจ้าของก็ไม่ยอมตอบ ระหว่างนั้น แคตี้ เบลถูกวางยา จนถึงขนาดส่งเซ็นต์มังโก แฮร์รี่สงสัยว่าเป็นมัลฟอยแต่ไม่มีหลักฐานเขาให้ครีชเชอร์กับด็อบบี้ตามสอดแนมแต่ก็ไม่ได้เรื่อง เขาเคยใช้แผนที่ตัวกวนแต่ก็ไม่พบมัลฟอย ราวกับฝ่ายนั้นหายไปจากปราสาทแฮร์รี่เกิดความรู้สึกแปลกๆกับจินนี่ในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่มีท่าทางเย็นชาต่อรอนซึ่งคบกับลาเวนเดอร์เขาถึงกับใช้ยาโชคดีนิดหน่อยจนจินนี่เลิกกับดีน และหันมาคบกับเขาในที่สุด
ในวันคริสต์มาสที่แฮร์รี่มาพักที่บ้านโพรงกระต่าย สกริมเจอร์รัฐมนตรีกระทรวง เวทมนตร์คนใหม่มาพบเขาและเสนองานในกระทรวงให้แต่จะให้เขาคอยสอดแนมดัมเบิลดอร์ แฮร์รี่ปฏิเสธ หลังจากนั้นเมื่อถึงวันเกิดของรอนปรากฏว่ารอนถูกวางยา แต่ก็จับมือใครดมไม่ได้หลังจากนั้นรอนก็เลิกกับลาเวนเดอร์
ในการพบกับดัมเบิลดอร์ครั้งต่อๆ มาแฮร์รี่ได้รู้ว่าโวลเดอมอร์เคยสมัครเป็นอาจารย์สอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดกับศาสตราจารย์ดิพพิตอาจารย์ใหญ่คนเก่าดัมเบิลดอร์ให้ข้อสัณนิษฐานว่าเพราะเจ้าแห่งศาสตร์มืดอาจจะมีแผนค้นหาความลับในปราสาทและชักจูงพ่อมดหนุ่มสาวเมื่อถูกปฏิเสธเพราะอายุน้อยเกินไปเขาก็ไปทำงานในร้านบอร์เจนและเบิร์กซึ่งทำให้ได้มีโอกาสหาของมากมายครั้งหนี่งเขาไปติดต่อกับแม่มดคนหนึ่งซึ่งชอบเขามากถึงกับอวดของสะสมที่มีค่าที่สุดคือถ้วยของเฮลก้า ฮัฟเฟิลพัฟ กับ จี้ห้อยคอของซัลลาซาร์ สลิธีรินสองวันต่อมาแม่มดผู้นี้ก็ถูกฆ่าและเอล์ฟประจำบ้านซึ่งเป็นเจ้าของความทรงจำนี้ก็ถูกกล่าวหา และของทั้งสองอย่างหายไปต่อมาโวลเดอมอร์มาเสนอตัวกับดัมเบิลดอร์อีกครั้งแต่ถูกปฏิเสธ นับตั้งแต่นั้นไม่เคยมีอาจารย์สอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดที่สอนเกินกว่า 1 ปีดัมเบิลดอร์บอกว่าเป็นเพราะเขาต้องการจะหาสมบัติของเรเวนคลอกับกริฟฟินดอร์ด้วย
แฮกริดมีจดหมายมาบอกว่า อาราก็อก แมงมุมยักษ์ซึ่งป่วยมานานแล้วตายลงเขาจะทำพิธีศพให้ในตอนค่ำ แฮร์รี่จึงลอบออกไปโดยใช้ยาโชคดีเพื่อไม่ให้ถูกจับได้เขาพบกับสลักกอร์น และเกลี้ยกล่อมจนอีกฝ่ายยอมถอดความทรงจำออกมาให้ดัมเบิลดอร์กับแฮร์รี่จึงได้รู้ว่ากล่องวิญญาณเป็นเครื่องมือที่ใช้ถอดวิญญาณออกจากร่างเพื่อให้เป็นอมตะเพราะเหตุนั้นโวลเดอมอร์จึงไม่ตายด้วยคำสาปสะท้อนกลับตอนที่ไปฆ่าแฮร์รี่ตอนเด็กๆแต่การที่จะทำกล่องบรรจุวิญญาณได้จะต้องฆ่าคน โวลเดอมอร์แบ่งวิญญาณออกเป็น 7 ส่วนดัมเบิลดอร์บอกว่า ส่วนหนึ่งถูกเก็บไว้ในสมุดบันทึกที่แฮร์รี่ทำลายไปเมื่อตอนปีสองส่วนหนึ่งอยู่ในแหวนที่แฮร์รี่เคยเห็นอาจารย์ใหญ่ใส่ ซึ่งถูกทำลายไปเช่นกันดัมเบิลดอร์กำลังหาส่วนอื่นๆ อยู่ และยังสัณนิษฐานว่า อาจจะอยู่ที่กอดริกฮอลโลว์ด้วยอันหนึ่ง
ครั้งหนึ่งแฮร์รี่มีเรื่องกับมัลฟอยเขาใช้คาถาที่ได้จากสมุดของ Half-blood Prince โดยไม่ได้ตั้งใจเขาโดนสเนปคาดคั้นแต่เขาไม่ตอบ ขณะที่แฮร์รี่กำลังจะไปพบครูใหญ่เขาพบศาสตราจารย์ทริลอร์นี่ย์กลางทางและได้รู้เรื่องว่าตอนที่เธอมาสัมภาษณ์เมื่อเข้าทำงานเมื่อสิบห้าปีก่อน เธอพบสเนปแอบฟังอยู่ตรงประตูแฮร์รี่บอกเรื่องนี้ให้ครูใหญ่ทราบแต่ชายชราก็ยังปกป้องสเนปเหมือนกับที่ทำทุกครั้งซึ่งทำให้แฮร์รี่โกรธแต่ดัมเบิลดอร์บอกแฮร์รี่ว่า เขาจะไปหากล่องวิญญาณอีกอันหนึ่งและให้แฮร์รี่ไปด้วยซึ่งก่อนไปครูใหญ่ขอให้เด็กหนุ่มสัญญาว่าจะทำตามที่เขาสั่งเช่น ซ่อนตัว วิ่ง หรือหนี ซึ่งแฮร์รี่จำต้องรับคำ
ทั้งสองคนไปถึงถ้ำแห่งหนึ่งการจะเปิดถ้ำต้องใช้เลือด ซึ่งดัมเบิลดอร์เป็นผู้ทำเอง โดยไม่ยอมให้แฮร์รี่ทำภายในถ้ำมีบ่อน้ำใหญ่มีเกาะตรงกลาง มีเรือลำหนึ่งซึ่งทั้งคู่ใช้ไปที่เกาะแฮร์รี่สังเกตว่าในน้ำมีศพคนตายดัมเบิลดอร์บอกว่าเป็นผีดิบที่โวลเดอมอร์จะเรียกใช้งานการที่จะปราบผีดิบพวกนี้ต้องใช้ไฟ เมื่อถึงกลางเกาะก็เห็นมีแท่นหินตั้งอยู่บนแท่นมีอ่างที่มีน้ำยา ดัมเบิลดอร์แน่ใจว่ากล่องวิญญาณน่าจะอยู่ในอ่างดัมเบิลดอร์บอกว่า การที่จะเอากล่องบรรจุวิญญาณจะต้องดื่มน้ำยาให้หมดเขาเป็นคนกินยาเอง และเมื่อกินเข้าไปก็ทำให้เหมือนฝันร้ายแฮร์รี่พยายามให้เขากินยาจนหมดตามที่ได้รับคำสั่ง จนกระทั่งยาแห้งแต่ดัมเบิลดอร์แทบไม่มีแรงเหลือแต่ก็ยังเอาจี้ในอ่างมาได้แฮร์รี่ถูกผีดิบโจมตีแต่ดัมเบิลดอร์รวบรวมกำลังเสกไฟขับไล่และพาแฮร์รี่กลับมาฮอกส์มี้ด ที่นั่นพวกเขาพบตรามารบนฟ้าทั้งสองคนใช้ไม้กวาดบินกลับไปที่ปราสาทโดยที่ดัมเบิลดอร์บอกให้แฮร์รี่ใช้ผ้าคลุมล่องหนเขาพบเดรโกอยู่ที่หอคอยแห่งหนึ่ง ปรากฎว่าเดรโกได้รับคำสั่งจากโวลเดอมอร์ให้หาทางพาผู้เสพความตายเข้ามาในปราสาทด้วยตู้ที่มอนเตกูร์เคยหลงเข้าไปตู้นั้นมีทางติดต่อระหว่างปราสาทกับร้าน บอร์เจนและเบิร์กซึ่งขณะนี้ผู้เสพความตายกำลังสู้อยู่กับพวกภาคีนอกจากนี้เขายังได้รับคำสั่งฆ่าดัมเบิลดอร์แต่ไม่สำเร็จนอกจากนั้นเขายังใช้คาถาสะกดใจกับมาดามโรสเมอร์ทาร์ให้ร่วมมือโดยที่เธอไม่รู้ตัวแต่ระหว่างนั้นมีผู้เสพความตายเข้ามาและใช้พวกมากเข้ารุมจนดัมเบิลดอร์ล้มลงแฮร์รี่กำลังจะเข้าไปช่วยแต่แล้วสเนปก็เข้ามา สเนปใช้คาถาพิฆาตกับดัมเบิลดอร์ก่อนจะพากันหนีไปแฮร์รี่ตามสเนปไปเขาพยายามใช้คาถาที่ได้มาจากโน้ตแต่กลับใช้กับสเนปไม่สำเร็จสเนปบอกว่าโน้ตนั้นเป็นของเขาเองผู้เสพความตายหลายคนหนีไปได้รวมทั้งสเนปและเดรโกด้วย แฮร์รี่มาพบภายหลังว่าจี้นั้นเป็นของปลอมด้วยข้อความบางอย่างที่ลงชื่อว่า R.A.B และบิลถูกผู้เสพความตายคนหนึ่งซึ่งเป็นมนุษย์หมาป่าทำร้ายแต่เฟลอร์ยืนยันว่าจะแต่งงานกับเขาซึ่งนี่เป็นเหตุให้ลูปินยอมรับน้ำใจของท็องส์ด้วย เฮอร์ไมโอนี่บอกว่าพบเรื่องของแม่สเนปที่นามสกุลเก่าคือ Prince และแต่งงานกับมักเกิ้ลแต่เหตุที่สเนปทิ้งตำราไว้ที่ห้องทำงานเพราะเกรงจะถูกดัมเบิลดอร์จับได้นั่นเองส่วนการที่ไม่มีใครจับพิรุธเขาได้เนื่องจากความเชี่ยวชาญในการกำบังจิตของเขาดังนั้นสเนปก็คือ Half Blood Prince ส่วนการที่ไม่พบร่องรอยของเดรโกก็เพราะใช้ของบางอย่างจากร้านของเฟร็ดกับจอร์จนั่นเอง
งานศพของศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่และด้วยความเศร้าสลดมีผู้มาไว้อาลัยกันมากมายรวมทั้งพวกเงือกและเซนทอร์แฮร์รี่ตกลงใจว่าจะไม่กลับมาเรียนในปีหน้าแต่จะไปกอดริกฮอลโลว์เพื่อหากล่องวิญญาณที่น่าจะอยู่ที่นั่นรอนกับเฮอร์ไมโอนี่บอกว่าจะไปด้วยกันอย่างเคย

Harry Potter 7 Harry potter and the Deathly Hallows


เปิดฉากที่งานแต่งงานของบิลและเฟลอร์หลังงานแต่ง แฮรี่ลาเพื่อนๆ เพื่อที่จะตามหาHorcruxes และไม่กลับไปฮอกวอร์ตแม้ว่าเพื่อนๆจะขอติดตามไปด้วยแต่แฮรี่ก็แอบหนีไปคนเดียว
ฮอกวอร์ตถึงแม้จะยังเปิดสอนภายใต้อาจารย์ใหญ่คนใหม่มัคกอลนากัลแต่นักเรียนที่กลับมาในปีนี้ก็ลดจำนวนน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด D.A.กลับมารวมกลุ่มกันอีกครั้งและครั้งนี้ไม่จำเป็นต้องใช้ห้องลับเป็นชมรมอีกแล้วเพราะอาจารย์ในโรงเรียนต่างก็ยอมรับ และกลุ่มOrder of Phenixผลัดกันมาช่วยสอนทำให้วิชา Defense against dark art ของกลุ่มพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเนวิลล์และจินนี่ และกลุ่ม D.A. ก็เฝ้ารอว่าสักวันแฮรี่จะส่งสัญญาณให้พวกเขาเข้าช่วยในการปราบโวลเดอร์มอร์
ฝ่ายแฮรี่ได้รับการช่วยเหลือจากบุคคลลึกลับทำให้รู้การเคลื่อนไหวของโวลเดอร์มอร์และสามารถขัดขวางโวลเดอร์มอร์ได้หลายครั้งรวมถึงร่องรอยของ R.A.B.ด้วยและเมื่อตามรอยR.A.B. ไปถึงอัซคาบัลเขาจึงค้นพบว่าR.A.B. แท้จริงคือน้องชายของซีเรียส แบล็ค ที่ถูกคุมขังในอัซคาบัล ซึ่งได้ตายไปแล้ว โดย R.A.B. ซึ่งเป็นลูกน้องผู้ซื่อสัตย์ของโวลเดอร์มอร์เป็นผู้ช่วยของโวลเดอร์มอร์ในการทำHorcruxes และนำไปซ่อน
แต่ต่อมา R.A.B.ระแวงว่าโวลเดอมอร์กำลังจะกำจัดเขา เพื่อปิดปากไม่ให้เรื่อง Horcruxesรั่วไหลเขาจึงแอบไปเก็บHorcruxes มาเปลี่ยนที่ซ่อน โดยเขารู้ Horcruxesจำนวนห้าชิ้น(อีกสองชิ้นคือตัวโวลเดอร์มอร์และงู)และได้กระจายไปยังญาติๆตระกูลแบล็คเพื่อเก็บรักษา(ไดอารี่เก็บไว้ที่แม่ของมัลฟอย)แฮรี่ขอความช่วยเหลือจากท็องส์เพื่อสืบหาคนในตระกูลแบล็คที่น่าจะเก็บของที่เหลืออีกสามชิ้น(สองชิ้นเจอแล้ว)และพบว่าชิ้นหนึ่งอยู่ที่เบลลาทริกซ์ซึ่งแฮรี่และท็องส์สามารถกำจัดเบลล่าและทำลาย horcruxesได้ อีกชิ้นหนึ่งเป็นสมบัติของซีเรียสแบล็ค ที่อยู่ใกล้ตัวแฮรี่มากๆแต่แฮรี่มองข้ามไปจนกว่าจะรู้ตัวก็เกือบไม่ทัน ( R.A.B ก็เข้าใจว่าซีเรียสเป็น Dead eater จึงเก็บไว้กับซีเรียสส่วนนึง) และอีกส่วนหนึ่งซึ่งยังหาไม่เจอและคาดว่าR.A.B.จะเก็บไว้เอง
ในขณะเดียวกันที่ฮอกวอร์ตเฮอร์ไมโอนี่ (ซึ่งติดต่อกับแฮรี่ และรู้เรื่องราวโดยตลอด) ก็จับสังเกตในตัวครีเชอร์ได้และสันนิษฐานว่าHorcruxes อีกชิ้นซ่อนอยู่ในบ้านของแบล็คที่ปัจจุบันตกเป็นของแฮรี่แฮรี่กลับไปที่บ้านเลขที่12 และค้นหาจนเจอHorcrux และทำลายจนสำเร็จและเขารู้ว่าถ้าเขาฆ่างูได้สำเร็จโวลเดอร์มอร์ก็จะเหลือแค่ชีวิตเดียว
ด้วยความช่วยเหลือของบุคคลลึกลับแฮรี่สามารถแฝงกายเข้าไปในที่กบดารของโวลเดอร์มอร์ได้และเขาพยายามหาทางฆ่างูของโวลเดอร์มอร์จนสำเร็จและขณะจะเข้าไปลุยโวลเดอร์มอร์แบบยอมตาย(เพราะเข้าใจว่าเหลือจิตเดียวแล้ว)แต่โดนสเนปขัดขวาง ด้วยความโกรธแค้นแฮรี่ฆ่าสเนปจนตายก่อนพบว่านี่เป็นกับดักที่ล่อให้เขามาติดกับแต่ทันใดนั้นมัลฟอยก็โผล่มาช่วยแฮรี่ได้ทันและหนีไปที่ฮอกวอร์ตที่ฮอกวอร์ต
มัลฟอยเล่าให้ฟังว่าสเนปคือคนที่ส่งความเคลื่อนไหวของโวลเดอร์มอร์ให้แฮรี่และ Order of Phenix มาโดยตลอดอย่างลับๆ ทำให้ โวลเดอร์มอร์ไม่สามารถทำอะไรได้สะดวกแฮรี่ไม่ยอมเชื่อจนพบความทรงจำของดัมเบิลดอร์และพบว่าเป็นตอนที่ดัมเบิลดอร์ขอร้องให้สเนปฆ่าเขาเพื่อแฝงตัวเข้าไปในกลุ่มโวลเดอร์มอร์ได้สนิท
มัลฟอยเล่าให้ฟังว่าสเนปสามารถโน้มน้าวมัลฟอยให้ถอนตัวจาก Dead eater ได้แต่โวลเดอร์มอร์ก็สงสัยจึงวางแผนให้สเนปส่งข่าวผิดๆให้แฮรี่เพื่อวางกับดักเพื่อล่อทั้งแฮรี่และสเนปและมัลฟอยยังบอกอีกว่างูไม่ใช่Horcrux ที่แท้จริงแต่โวลเดอร์มอร์หลอกให้แฮรี่ตายใจเท่านั้นสรุป ยังมี horcruxที่หลงเหลืออยู่และไม่รู้ว่าเป็นอะไรแฮรี่เสียใจมากที่ตัวเองฆ่าเสเนปไป
ทันใดนั้น โวลเดอร์มอร์และ กลุ่ม Dead eater ก็บุกเข้ามาในฮอกวอร์ต กลุ่ม D.A.ช่วยกันสู้เต็มที่แต่ก็ต้านไว้แทบไม่ไหว โวลเดอร์มอร์ไล่ล่าแฮรี่ด้วยตัวเองจนเหลือแต่แฮรี่และเนวิลล์ในห้องของอาจารย์ใหญ่ และตัวโวลเดอร์มอร์โวลเดอร์มอร์เฉลยว่า Horcrux อีกอันนึงก็คือแผลเป็นบนหน้าผากแฮรี่(โดยการฆ่าเจมส์พอตเตอร์เพื่อสร้าง horcruxนี้) และเป็น Horcrux ที่จะทำให้โวลเดอร์มอร์ชนะเพราะจากคำทำนาย จะมีผู้รอดชีวิตเพียงคนใดคนหนึ่ง ซึ่งถ้าแฮรี่รอดนั่นก็หมายถึงโวลเดอร์มอร์รอดด้วย ซึ่งจะไม่เป็นตามคำทำนายฉะนั้นแฮรี่จึงต้องเป็นฝ่ายตายแฮรี่ยังคงสู้กับโวลเดอร์มอร์เต็มที่
แม้จะได้ยินอย่างนั้นเขาใช้ดาบกริฟฟินดอร์สู้กับโวลเดอร์มอร์ก่อนจะโยนดาบให้เนวิลล์และร้องบอกให้เนวิลล์แทงโวลเดอร์มอร์โวลเดอร์มอร์มัวแต่ระวังแฮรี่จึงโดนเนวิลล์แทงจนตายแฮรี่บอกเนวิลล์และทุกคนว่าคำทำนายจริงๆหมายถึงเนวิลล์ไม่ใช่แฮรี่ ( แต่โวลเดอร์มอร์ไม่รู้เพราะเขาได้ยินคำทำนายมาจากสเนปอีกทีซึ่งไม่ครบถ้วนทำให้เขาคิดว่าเป็นแฮรี่)แต่ที่แฮรี่มีอำนาจพิเศษต่างๆเช่นภาษางูหรือเชื่อมจิตใจกับโวลเดอร์มอร์ได้เป็นเพราะแผลเป็นซึ่งเป็นhorcrux นั่นเอง และพอเขารู้ตัวว่าเป็นเพราะเหตุนี้จึงคิดว่าน่าจะเป็นไปได้ที่เนวิลล์(ซึ่งไม่อยู่ในสายตาโวลเดอร์มอร์)อาจเป็นคนในคำทำนายก็ได้ ซึ่งเขาคิดถูก
แฮรี่รู้ตัวว่า Horcrux แผลเป็นกำลังมีพลังมากขึ้นและกำลังจะครอบงำเขา ให้เขาเป็นโวลเดอร์มอร์ต่อไปจึงขอร้องให้เนวิลล์กำจัดเขาอีกคน เนวิลล์ไม่ยอมแฮรี่จึงบอกว่าหลายคนเสียสละชีวิตเพื่อกำจัดลอร์ดโวลเดอร์มอร์ ดัมเบิลดอร์ สเนปซีเรียส รวมถึงพ่อและแม่ของเนวิลล์ซึ่งการตายของแฮรี่เทียบไม่ได้กับคนอื่นเนวิลล์กลั้นใจกำจัดแฮรี่
ที่งานศพของแฮรี่ป้าเพ็ตทูเนียมาร่วมงานศพและเล่าให้ทุกคนฟังว่าโวลเดอร์มอร์ ขณะเป็นทอม ริดเดิ้ลได้พบรักกับหญิงธรรมดาคนหนึ่ง และมีลูกสาวสองคนแต่พอทอมเริ่มเปลี่ยนมาเป็นโวลเดอร์มอร์ทำให้ผู้หญิงคนนั้นเริ่มทนไม่ได้และหนีไปโดยความช่วยเหลือของดัมเบิลดอร์ ดัมเบิลดอร์ช่วยให้เธอหลบซ่อนเปลี่ยนชื่อเสียงเรียงนาม และใช้ชีวิตแบบคนธรรมดาที่สุด ลูกสาวคนโตซึ่งเป็นสควิปไม่มีเวทมนตร์ใดๆและเกลียดโลกของเวทมนตร์มาก แต่ลูกสาวคนเล็กซึ่งมีวี่แววความเป็นแม่มดตั้งแต่เด็กได้เข้าเรียนในฮอกวอร์ตภายใต้ชื่อลิลลี่ อีแวนซึ่งตอนที่โวลเดอร์มอร์ฆ่าเจมส์และกำลังทำ horcrux บนตัวแฮรี่ ลิลลี่เข้ามาขัดขวางและด้วยพลังความรักของแม่ และความเป็นสายเลือดเดียวกันกับโวลเดอร์มอร์ทำให้เมื่อโวลเดอร์มอร์จะกำจัดลิลลี่เกิดพลังย้อนกลับทำร้ายโวลเดอร์มอร์จนร่างกายสูญสลายไปและเนื่องจากเหลือแฮรี่คนเดียวทุกคนจึงเข้าใจว่าแฮรี่มีพลังบางอย่างที่ทำลายโวลเดอร์มอร์(แต่ความจริงเป็นลิลลี่)และมีแต่ดัมเบิลดอร์ที่รู้ความจริงและเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้พี่สาวลิลลี่ฟังเพื่อขอร้องให้เธอรับเลี้ยงเด็กชายผู้รอดชีวิต

วันพุธที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2552